Anime vs Manga vs Live Action vs Light Novel

ผมดูอนิเมะหลายๆเรื่องและก็อ่านมั่งงะ,ไลท์โนเวล เลยอยากจะทำริวิวนิดๆให้คนเห็นความต่างกันในความคิดเห็นของผม

Anime – เป็นเวอร์ชั่นแบบการ์ตูนที่เราดูในทีวีดีๆนี่เอง แต่วาดในแนวแบบญี่ปุ่นในความเห็นผมผมว่าแบบเมะดูง่ายสุดเปิดทีวีนั่งเก้าอีแล้วก็ดูไปเรื่อยๆแถมได้ยินเสียงเซย์ยู(นักพากย์)ที่ชอบด้วยยย

Manga – เป็นเวอร์ชั่นแบบการ์ตูนที่เราอ่านๆกัน เป็นเล่มเดียวๆหรือแนบอยู่ในนิตยสาร ตั้งแต่เริ่มมีอ่านมังงะออนไลน์ ผมก็อ่านอย่างบ้าคลั่ง (100 กว่าๆ ตอนหมดในวันเดียว !) เพราะว่าบางครั่งอนิเมะทำช้าเกินขี้เกียจรอก็เลยโหลดมาอ่าน

เปรียบเทียบ :

Live Action – เป็นแบบคนแสดงหรือละครนี่แหละ อาจจะเอามั่งงะมาทำหรือเป็นเรื่องใหม่เลย อันนี่ผมไม่ค่อยได้ดูมากแต่มันก็คล้ายๆละครนี่แหละอาจจะได้ความรู้สึกชีวิตจริงติดมาด้วย

Light Novel – เป็นแบบนิยายตัวหนังสือล้วนๆ อาจจะมีภาพประกอบเหมาะสำหรับคนที่ชอบอ่านนิยายอยู่แล้ว ผมไม่ค่อยชอบเพราะมันอ่านแล้วปวดตา (แต่มันก็ฟินดีถ้าอ่านจบ)

Speed (ความเร็วในการดำเนินเรื่อง): Manga > Anime = Live Action > Novel
ส่วนตัวผมว่ามังงะเร็วสุด (จากการประสบด้วยตัวเอง) บางครับมันขึ่นอยู่กับแต่ละคน เพราะคนเราอ่านเร็วไม่เท่ากันอนิเมะ (หรือ Live action) ตอนนึงมีถึง 20 นาทีกว่าๆ(ตัด OP-ED) ซึงเท่าๆกับมังงะ 2-3 เล่มที่ใช้เวลาอ่านแค่ 10 นาที (มั่ง)ส่วนนิยายจะมีการพรรณาเยอะมาก อาจจะใช้เวลาถึง 30 นาทีในการอ่านบทหนึ่ง

Details (รายละเอียด): Novel > Anime > Live Action > Manga
รายละเอียดนี่ต้องยกให้นิยายเพราะแต่ละฉากต้องใช้อย่างน้อยครึ่งหน้าในการเล่า ส่วนอนิเมะจะเห็นฉากแต่เราก็จะไม่ค่อยสนใจแต่ก็ทำได้ละเอียดดี (อันนี้ต้องแล้วแต่คน เพราะคนเราชอบไม่เหมือนกัน) ในไลฟ์แอคชั่นถ้ามันมาจากอนิเมะก็อาจจะทำได้ไม่ดีมาก เพราะมันคือชีวิตจริงและการทำฉากมันจะยากในมังงะจะมีข้อจำกัดที่กรอบเพราะมันจะใช้จำนวนหน้าเยอะมากถ้าจะวาดฉากครบตัวละครครบ

Understandability (ความเข้าใจ): Anime = Manga > Live Action > Novel
อนิเมะกับมังงะเข้าใจง่ายๆพอกันเพราะมันมีบทพูดและการกระทำ แต่ในเวอร์ชั่นคนแสดงอาจจะมีการสับสนตัวละคร(เรื่องสีผม มันงงจริงๆนะ)และนิยายถ้ามึนๆไปอ่านนี่ลอยไปกับตัวหนังสือแน่ๆ

[Tutorial] มาสมัคร namamail กันเถอะ

สวัสดีครับ ไม่ได้เจอกันนาน วันนี้เราจะมาพูดถึง Namamail กัน (แถมวิธีสมัครให้ด้วย)

Namamail (生メール) เนี่ยเป็นบริการที่สามารถให้ ศิลปินจะส่งเมลล์มาหาเรา และเราก็สามารถตอบกลับได้เช่นกัน !

นอกจากเมลล์แล้ว ก็จะมีสำหรับคลิปเสียงหรือ 生ボイス ด้วย

พูดง่ายๆก็คือไอดอลจะอัดคลิปเสียงและก็ส่งมาให้เรานั่นเอง

นี่มาของชื่อ “นามะเมลล์” เนี่ย ถ้าแปลตรงๆก็จะแปลว่าเมลล์สด ซึ่งเมลล์ที่ส่งมานี่ก็จะเป็นเมลล์จริงๆเข้ามาในกล่องเมลล์เราเลย อย่างงี้:

asdfdf

แต่ละคนจะส่งประมาณ 1-3 เมลล์ต่อวัน พูดถึงเรื่องต่างๆ เช่น อนิเมะที่ชอบ หรือ การเมือง (555555)

ศิลปินที่เขาร่วมมีหลายๆวง: เช่น Idol College, Afilia Saga, Iketeru Hearts, PassCode และก็ PASSPO☆

ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://namamail.com/i/

 

วิธีสมัคร

สมัครนามะเมลล์จะค่อนค้างยากนิดนึง แต่ถ้าได้แล้วเราจะไม่ต้องยุ่งกับเว็บอีกเลย (นอกจากจะยกเลิกอะนะ)

ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย !

1. เข้าไปที่ http://namamail.com/ ถ้าทำผ่าน PC เราต้องหลอกเว็บว่าเป็นโทรศัพท์ก่อนโดยการใช้ Google Chrome กด F12 เพื่อเอา Developer Console ออกมาและ ชี้ไปตามปุ่มนี้

พอกดแล้วมันจะมีให้เลือกอุปกรณ์ตรงแถบข้างบนให้กด และเลือก iPhone 5 หรือ iPhone 6 ก็ได้ *ถ้าทำผ่านโทรศัพท์ได้ก็จะสะดวกกว่านิดนึง แต่ถ้าทำไม่ได้ให้ลองทำผ่าน PC

พอเสร็จแล้วหน้าตาจะประมาณนี้ เป็นอันเสร็จขั้นตอนแรก

2.ต่อไปให้กดปุ่ม ฟ้าๆข้างบนขวา เป็นปุ่มล็อกอิน/สมัคร พอเข้าหน้าเว็บต่อไปแล้วให้เลื่อนลงมาล่างสุด แล้วจะเจอปุ่มหน้าตาแบบนี้

พอกดแล้วมันจะพาเราไปแอปฯอีเมล์ แล้วก็สร้างเมลล์ให้พร้อมส่งแบบนี้ ให้เรากดส่งไปเลยไม่ต้องทำอะไร

พอส่งไปแล้ว ทางนั่นจะส่งเมลล์กลับมาทันที แล้วจะมีลิงค์สมัครอยู่ข้างใน

ให้ใช้เบราวเซอร์ (หรือโทรศัพท์) เข้าเว็บตามลิงค์ที่ส่งมาให้ อย่างแรกเลยหลังจากนั่น เขาจะให้กรอกรหัสผ่าน 2 ครั้ง เพื่อตั้งรหัสผ่าน

หลังตั้งรหัสผ่านแล้ว ก็จะมีตำเตือนให้ตั้งค้าโปรไฟล์ ซึ่งถ้าเราไม่ตั้งชื่อเล่นเรา Artist อาจจะตอบกลับไม่ได้เลย

เรียงจากบนลงล่าง:

  • ชื่อเล่น (Nickname)
  • วันเกิด (ปี/เดือน/วัน)
  • เพศ
  • ที่อยู่
  • อาชีพ
  • อะไรทำให้รู้จักเว็บนี้
  • ศิลปินที่ชอบ
  • เป็นแฟนคลับมานานเท่าไหร่แล้ว
  • ติ็กตามที่ตรงกับตนเอง
  • เอาให้เว็บนี้มีศิลปินคนไหนเพิ่มเติม

พอเสร็จแล้วก็กดปุ่มฟ้าๆข้างล่างเลย พอกรอกเสร็จแล้วก็จะถามนิดหน่อยเกี่ยวกับการรับอีเมลล์ข่าวสารซึ่งเราข้ามไปได้เลย

3. หลังจากสมัครเสร็จแล้วให้ตรงไปที่หน้าศิลปิน ->  http://namamail.com/i/  และก็เลือกวงและก็เมมเบอร์เลยยยย ตัวอย่างเช่น อาราตะ ยูยู จะวง Iketeru hearts

เลือกได้แล้วก็กดปุ่มสีชมพูเข้าไปเลย

เสร็จแล้วให้กดจ่ายเงินเพิ่อสมัคร (ตกเดือนละประมาณ 170 บาท) โดยใช้ช่องทางของ SoftBank (ปุ่มสีส้ม)

กดเข้าไปแล้วเลือกโดยเครดิตการ์ดซึ่งเป็นปุ่มด้านบน

เสร็จแล้วก็กรอกบัตรเครดิตแบบที่กรอกซื้อของทั่วไป พอเสร็จแล้วก็จะมีเมลล์เข้ามายืนยันว่าสมัตรเรียบร้อยแล้ว

พอไอดอลส่งเมลล์ครั่งต่อไป เราก็จะได้รับเมลล์นั่นส่งตรงมายังกล่องจดหมายของเราเลย ซึ่งเราสามารถตอบกลับไปได้ด้วยย

 

เสร็จละครับ ขั้นตอนการสมัคร Namamail อาจจะยากหน่อย แต่พอได้แล้ว เราจะได้มีไอดอลมาโอฮาโย และก็โอยาซุมิให้ทุกวัน

ถ้ามีปัญหาอะไรก็พิมพ์ลงมาทางคอมเม้นข้างล่างได้เลยนะครับ (ล็อคอินเฟสบุคก่อนเน้อ)

[Walkthrough] การไปดูไลฟ์ที่ญี่ปุ่น

สวัสดีฮะ ไม่ได้เขียนบล็อคนาน (555) หลังจากผมกลับมาจากญี่ปุ่นก็มีเรื่องอยากเขียนเยอะแยะเลยยยในครั่งนี้เรามาพูดถึง “การไปดูไลฟ์” กัน

ปกติเวลาเราดูไลฟ์ที่ไทย ส่วนมากจะเป็นไลฟ์ฟรี และเราต้องมาจองที่กันใช่ไหมหล่ะ อันนี้หลายๆคนคงจะคุ้นเคยกันดี

แต่ว่าคราวนี้ ผมจะมาพูดถึงไลฟ์ที่อยู่ในไลฟ์เฮาส์ และก็ต้องใช้ตั๋วเข้างาน

 

– อ่าว แล้วถ้าไลฟ์ใช้ตั๋ว เราจะเอาตั๋วมาจากไหนกันหล่ะ ???

ปกติ ที่ญี่ปุ่นจะมีอยู่หลายๆเจ้าที่ขายตั๋วเช่น e+ (eplus), チケットぴあ (Ticket pier) หรือ Rakuten ticket ซึ่งตั๋วพวกนี้สามารถไปกดซื้อในเว็บแล้วไปจ่ายเงินที่ร้านสะดวกซื้อได้เลย แต่มันก็จะมีหลายๆวิธีที่จะซื้อตั๋วเหมือนกันนะวันนี้ผมจะยกตัวอย่างอันที่คิดว่าง่าย 1 วิธี

วิธีซื้อตั๋วแบบจำเลขไปกดที่ตู้ที่เซเว่น หรือไปบอกหน้าเค้าเตอร์ของ チケットぴあ

สมมุติว่าเราสนใจจะไปงานนี่:

ที่นีเราต้องเลื่อนลงมาหาตรงที่เขียนว่า P コード「P-code] และก็จำเลขไว้

 

เสร็จแล้วเราก็ไปหาเซเว่นใกล้ๆ แล้วไปตรงเครื่องถ่ายเอกสาร ซึ่งข้างๆก็จะมีเครื่องหน้าตาแบบนี้

Image result for セブンイレブン チケットマシン

หลังจากนั่นก็กดตรง チケット และก็หาตรง チケットぴあ แล้วก็กดที่ให้ใส่ Pコード

ต่อก็ต้องให้สกิลภาษาญี่ปุ่นตัวเองพาไป (5555) จนเสร็จ แล้วเครื่องเอกสารจะพิมพ์กระดาษออกมาแผ่นนึง

พอเสร็จแล้วเราก็จะต้องเอากระดาษแผ่นนั่นไปให้ที่เค้าเตอร์จ่ายเงิน และก็จ่ายเงินเป็นอันเสร็จสรรพ และเขาก็จะให้ตั๋วมาพร้อมไปเสร็จ แล้วเราก็เก็บเอาไว้อย่าให้หาย (ไม่งั้นอดเข้า 555)

ส่วนเคาน์เตอร์ チケットぴあ ที่ใกล้ที่สุดก็จะมีที่สนามบินนาริตะ ออกมาก็จะเห็นเลย ในที่นี่เราสามารถเอาเลขไปบอกเจ้าหน้าที่, จ่ายเงินแล้วก็รับตั๋วเลย

Image result for チケットぴあ成田

แต่ละเจ้าที่ขายตั๋วก็จะมีวิธีชำระเงิน และรับตั๋วที่ต่างกันไปลองศึกษาดูดีๆหล่ะแล้วชีวิตจะสะดวกขึ่น

– เอ๋ ทำไมมันลำบากจัง อย่างงี้รอซื้อตั๋วหน้างานไม่ดีกว่าเหรอ

จริงๆแล้วจะซื้อตั๋วหน้างานก็ได้แต่ก็จะมีข้อเสียหลายอย่างเช่น ตั๋วแพงขึ่น, เข้าหลังคนมีตั๋ว และก็มีโอกาสที่จะไม่ได้เข้าด้วย เพราะว่าเข้าต้องดูคนข้างในก่อนว่าจะรองรับเพิ่มได้ไหม ซึ่งถ้าเป็นงานใหญ่ๆเนี่ย เราอาจจะไม่ได้เห็นเวทีกันเลยทีเดียว

พูดถึงการเข้างาน เรามาเข้าเรื่องการไปในเข้างานกันเลยดีกว่า ปกติในตั๋วมันจะมีเขียนเวลาอยู่สองอันคือ 開場 (เปิดประตู) และก็ 開演 (เริ่มแสดง)

พอถึงเวลาเปิดประตู ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาเรียกคนเข้างานตามหมายเลขบัตร (整理番号/Seiri bango) หรือเลขโซนที่อยู่ในบัตรตามลำดับ

จะมีทั้งแบบที่เป็น เลข  (01) และ ตัวอักษรตามด้วยเลข (A 01) สำหรับบัตรยืน

*หมายความว่า ถ้าเราซื้อบัตรเร็ว เราก็จะได้เข้าไปก่อนและก็จองที่ข้างหน้าไงหล่ะ !

พอเราเข้างานไปแล้ว ถ้าเป็นงานไทบัง (งานที่มีหลายๆวง) เขาก็จะถามว่าชอบวงไหน เราไม่ต้องไปตกใจและก็บอกวงที่ชอบไปเลย

ต่อไปเขาก็จะให้เราซื้อตั๋วดริงค์ (เครื่องดื่ม) ราคาประมาณ 500 เยนแล้วแต่ไลฟ์เฮาส์เพราะฉะนั่นก็เตรียมเงินไว้ด้วยเพื่อความรวดเร็ว

หลังจากเข้าไปในงานแล้ว ก็จะมีหลายๆอย่างที่เราสามารถทำได้เช่น

  • ไปแย่งแถวหน้า
  • หาที่วางกระเป๋า
  • เอากระเป๋าไปใส่ล็อกเกอร์หยอดเหรียญ ( ~300 เยน )
  • แลกเครื่องดื่ม

ส่วนแลกเครื่องดื่มเนี่ยมันแลกตอนไหนก็ได้ ไม่ต้องไปรีบตามคนอื่นเขา (พลาดอย่างแรง 5555 ดื่มไม่หมดแล้วก็รีบทิ้ง) เช่นตอนที่ไม่ใช่วงที่ตัวเองตาม หรือ ตอนเลิกงานก็ได้

เครื่องดื่มที่ให้แลกก็จะมีตั่งแต่ น้ำเปล่า โคล่า ไปจนถึงเครื่องดื่มแอลกอลออล์เลย

พอไฟเริ่มมืดลง ก็จะเป็นสัญญานเริ่มต้นของงาน !!!!

 

ขอจบแค่นี้ก่อนละกันครับ สำหรับการเข้าไปดูไลฟ์ที่ญี่ปุ่นตามไลฟ์เอาส์ หวังว่าจะช่วยให้หายงง หรือเป็นคำแนะนำในการไปดูไลฟ์นะคับ 😀

ครั้งหน้าผมจะมาพูดถึงเรื่อง บุปปัง และ โทคุเทนไค รอติดตามชมได้นะคร้าบบบบ